Work Life Flow : ปรับสมดุลชีวิตและงานลื่นไหลไปกับทุกจังหวะชีวิต
- Namthip Digital_MKT
- 2 มิ.ย.
- ยาว 1 นาที
การสร้าง Work Life Balance คือการจัดสรรเวลาให้งานและชีวิตส่วนตัวอยู่ในสัดส่วนที่เหมาะสมเพื่อให้เรามีความสุขทั้งสองด้าน แต่ในทางปฏิบัติ การที่งานแทรกซึมเข้ามาในชีวิตประจำวันผ่านช่องทางต่าง ๆ เช่น การแจ้งเตือนงานด่วนผ่านแอปแชท หรือการที่เพื่อนร่วมงานเห็นโพสต์ในโซเชียลมีเดียแล้วทักมาคุยเรื่องงาน
ทำให้เส้นแบ่งระหว่าง "งาน" กับ "ชีวิตส่วนตัว" เริ่มจางลง

สถานการณ์เหล่านี้ยิ่งทวีความท้าทายเมื่อพิจารณาถึงสภาพเศรษฐกิจ การเดินทาง และเงื่อนไขต่างๆ ที่ทำให้เราไม่สามารถเลือกงานที่ชอบหรืองานที่ให้สมดุลชีวิตได้อย่างเต็มที่
ดังนั้น แทนที่จะพยายามแยกงานและชีวิตส่วนตัวออกจากกันอย่างชัดเจน ซึ่งอาจนำไปสู่ความเครียดและความรู้สึกผิดหวัง
เราควรหันมาทำความเข้าใจและยอมรับว่างานคือส่วนหนึ่งของชีวิต และปรับตัวให้อยู่ร่วมกับมันอย่างมีความสุขด้วยแนวคิดที่เรียกว่า
Work Life Flow ซึ่งเน้นการยอมรับ การบริหารเวลา และการหาความสนุกในงาน เพื่อให้ทั้งสุขภาพจิตดีและผลงานเติบโตไปพร้อมกัน
Work Life Flow เน้นการบริหารจัดการเวลาและพลังงานอย่างยืดหยุ่น โดยให้ความสำคัญกับการหาความสุขในงาน และการดูแลตัวเองควบคู่ไปด้วย
หนึ่งในหัวใจสำคัญของ Work Life Flow คือ การให้เวลาร่างกายและสมองได้พักผ่อน เพราะเมื่อเราทำงานหนักโดยไม่หยุดพัก สุขภาพกายและใจย่อมทรุดโทรม ส่งผลต่อประสิทธิภาพการทำงานในระยะยาว
การพักผ่อนอาจไม่จำเป็นต้องเป็นการหยุดงานยาว ๆ แต่สามารถทำได้ง่าย ๆ ดังนี้
1. ยอมรับและหาความสนุกในงาน: แทนที่จะมองว่างานเป็นภาระ ลองหามุมที่คุณชอบในงาน เช่น การได้เรียนรู้ทักษะใหม่ หรือการได้ช่วยเหลือเพื่อนร่วมงาน หรือการได้ค้นหาตัวเองเพื่อไปเจอสิ่งที่ชอบในสักวัน
2. บริหารเวลาให้ยืดหยุ่น: คำนึงถึงประสิทธิภาพให้มากกว่าเวลาการทำงาน ไม่จำเป็นต้องใช้เวลาในการนั่งทำงานนานแต่ต้องวางแผนให้เกิดประสิทธิภาพในการทำงานสูงสุด
3. การพักคือสิ่งจำเป็น ไม่ใช่รางวัล : ท่องไว้เสมอว่าการพักผ่อนเป็นสิ่งจำเป็นไม่ใช่การให้รางวัลตัวเอง การหาเวลาพักสั้น ๆ ระหว่างวัน เช่น เดินไปชงกาแฟ หรือยืดเส้นยืดสาย เพื่อให้สมองได้รีเซ็ตทำให้คุณมีประสิทธิภาพในการทำงานมากกว่าแน่นอน
4. ให้รางวัลตัวเองด้วยการเปลี่ยนบรรยายกาศ : ลองทำงานจากที่ใหม่ ๆ เช่น ร้านกาแฟที่ชอบ สวนสาธารณะ หรือเมืองท่องเที่ยวใกล้บ้าน
5. ดูแลสุขภาพกายและใจ : ออกกำลังกายเบา ๆ นอนหลับให้เพียงพอ และกินอาหารที่มีประโยชน์ เพื่อให้ร่างกายพร้อมรับมือกับงาน
การหันมาใช้ชีวิตแบบ Work Life Flow คือทางเลือกที่ยั่งยืนกว่า ด้วยการยอมรับว่างานและชีวิตคือสิ่งที่ไหลไปด้วยกัน และหาวิธีทำให้ทั้งสองด้านส่งเสริมกัน
การพักผ่อนและเปลี่ยนบรรยากาศด้วยการเดินทางก็เป็นส่วนสำคัญที่ช่วยให้คุณค้นพบพลังใหม่ๆ และถ้าคุณกำลังมองหากระเป๋าเดินทางที่เหมาะกับไลฟ์สไตล์แบบนี้
ลองแวะเยี่ยมชมที่ Caggioni มีทั้งหน้าร้านที่ห้างสรรพสินค้าชั้นนำทั่วประเทศ และทางออนไลน์ที่
มีกระเป๋าคุณภาพคุ้มราคา ดีไซน์สวย ฟังก์ชันครบ เพื่อให้ทุกทริปของคุณเป็นทั้งการพักผ่อนและการทำงานที่ลงตัว!
Comments